น้ำมันมะพร้าว ต้านหวัด .

น้ำมันมะพร้าว ต้านหวัด

Share : facebook share twitter share messenger share

บทความ น้ำมันมะพร้าว

น้ำมันมะพร้าว ต้านหวัด



เมื่อหน้าฝนเวียนมา อากาศก็เปลี่ยนแปลงบ่อยซะเหลือเกิน เดี๋ยวร้อนจัด เดี๋ยวฝนตก ทำให้ร่างกายอ่อนแอจนต้องเจ็บไข้ได้ป่วย แต่ถ้ามี “น้ำมันมะพร้าว” (Coconut Oil) รับรองว่าหน้าฝนนี้ไม่ป่วยแน่นอน

 

     รู้กันหรือไม่ว่า “น้ำมันมะพร้าว” (Coconut Oil) ได้ถูกนำมาใช้เป็นอาหาร ยา และเครื่องสำอาง มาเป็นเวลานานนับหลายพันปีมาแล้ว ซึ่งน้ำมันมะพร้าว คือ ไขมัน 100% ที่ประกอบไปด้วยกรดไขมันอิ่มตัว 80 – 90% ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกรดลอริก พบมากถึง 47% ส่วนที่เหลือคือ กรดไมริสติก และกรดปาล์มมิติก

 

     จะเห็นได้ว่าน้ำมันมะพร้าวเป็นน้ำมันจากพืชชนิดเดียวในโลกที่มีกรดลอริกอยู่ในปริมาณที่สูงมากถึง 47% จึงทำให้น้ำมันมะพร้าวมีคุณสมบัติพิเศษ ดีเด่นกว่าน้ำมันพืชชนิดอื่น ๆ ในด้านการเสริมสุขภาพ ดังนี้

1. สร้างภูมิคุ้มกัน – กรดลอริกในน้ำมันมะพร้าวจะเปลี่ยนเป็นโมโนกลีเซอไรด์ ที่มีชื่อว่า โมโนลอริน ซึ่งเป็นสารตัวเดียวกับที่อยู่ในน้ำนมมารดา ที่ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้กับทารกในระยะ 6 เดือนแรก ที่ร่างกายยังไม่สร้างระบบภูมิคุ้มกันโรค

2. ฆ่าเชื้อโรค - โมโนลอรินเป็นสารปฏิชีวนะที่ทำลายเชื้อโรคทุกชนิด ที่ดีกว่ายาปฏิชีวนะที่ใช้อยู่ในปัจจุบันที่สามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา ยีสต์ โปรโตซัว และไวรัส ไวรัสบางชนิดที่ยาปฏิชีวนะทั่วไปทำลายไม่ได้เนื่องจากมีเกราะที่เป็นไขมันห่อหุ้ม แต่เกราะนี้ก็จะถูกละลายโดยน้ำมันมะพร้าว เปิดโอกาสให้โมโนลอรินเข้าไปฆ่าเชื้อโรค ซึ่งสารปฏิชีวนะในน้ำมันมะพร้าวไม่เป็นพิษต่อมนุษย์ และจะถูกสร้างขึ้นในร่างกายของมนุษย์เมื่อบริโภคอาหารที่มีกรดลอริก อีกทั้งไม่เป็นอันตรายต่อแบคทีเรียที่เป็นประโยชน์ในลำไส้อีกด้วย

 

     จากคุณสมบัติพิเศษเหล่านี้ ส่งผลให้น้ำมันมะพร้าวสามารถช่วยบรรเทาอาการเจ็บป่วยต่าง ๆ ที่เกิดจากการติดเชื้อได้ เช่น เชื้อไวรัสไข้หวัด เชื้อไข้หวัดใหญ่ เริม คางทูม เจ็บคอ เพิ่มภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรงขึ้นได้ โดยกระตุ้นการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาวให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น เราจึงนำน้ำมันมะพร้าวมาป้องกันและบรรเทาอาการหวัดได้ ไม่ทำให้เกิดการดื้อยาของเชื้อโรค

 

น้ำมันมะพร้าวช่วยต้านหวัดได้อย่างไรบ้าง ?

1. รับประทาน : สามารถตวงกับช้อนแล้วกินได้เลย หรือจะนำไปปรุงเป็นเมนูคาวหวานก็ได้ หรือจะเติมน้ำมันมะพร้าวลงในอาหาร อาจจะเป็นซุป ต้มจืด โดยใช้น้ำมันมะพร้าวแค่เพียงเล็กน้อย รับประทานเป็นประจำในช่วงที่ป่วย เป็นหวัด หรือรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัว จะช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายได้

2. ดื่ม : นอกจากการเติมน้ำมันมะพร้าวลงในอาหารแล้ว สามารถเติมน้ำมันมะพร้าวลงในเครื่องดื่ม เช่น น้ำชา แล้วจิบอุ่น ๆ บรรเทาอาการเจ็บคอและอาการไอ

โดยการรับประทาน หรือ ดื่มน้ำมันมะพร้าวนั้น ต้องระวังเรื่องปริมาณการบริโภคด้วย ซึ่งวิธีที่เหมาะสมอาจยึดหลักจากน้ำหนักตัว ดังนี้

          - น้ำหนักตัว 30 - 40 กิโลกรัมขึ้นไป สามารถบริโภคได้ไม่เกิน 0.5 ช้อนโต๊ะต่อวัน

          - น้ำหนักตัว 40.1 - 60 กิโลกรัมขึ้นไป สามารถบริโภคได้ไม่เกิน 1 ช้อนโต๊ะต่อวัน

          - น้ำหนักตัว 60.1 - 80 กิโลกรัมขึ้นไป สามารถบริโภคได้ไม่เกิน 1.5 - 2 ช้อนโต๊ะต่อวัน

          - น้ำหนักตัว 80.1 กิโลกรัมขึ้นไป สามารถบริโภคได้ไม่เกิน 2.5 - 3 ช้อนโต๊ะต่อวัน

          - เด็กอายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไป ไม่เกินวันละ 1 - 2 ช้อนชา

          - ผู้สูงอายุรับประทานไม่เกินวันละ 1 - 2 ช้อนโต๊ะต่อมื้อ

3. ดม : สามารถผสมน้ำมันมะพร้าวเข้ากับน้ำมันหอมระเหย เช่น ยูคาลิปตัส เปปเปอร์มินต์ เพื่อสูดดมบรรเทาอาการคัดจมูก ได้

4. ทา : สามารถผสมน้ำมันมะพร้าวเข้ากับน้ำมันหอมระเหย เช่น ยูคาลิบตัส เปปเปอร์มินต์ ทาบริเวณหน้าอกและแผ่นหลัง เพื่อช่วยบรรเทาอาการหวัด คัดจมูก และช่วยให้นอนหลับสนิท

 

ด้วยความปรารถนาดีจาก น้ำมันมะพร้าวออร์แกนิคสกัดเย็น ตราแมนเนเจอร์ (Organic Coconut Oil Extra Virgin By ManNature)

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก mgronline


บทความที่น่าสนใจ

สิ่งที่ควรรู้ก่อนใช้ “ น้ำมันมะพร้าว ”

น้ำมันมะพร้าว ช่วยดูแลผิวหน้าได้

น้ำมันมะพร้าว ป้องกันภาวะขาดน้ำ

หลักการเลือกซื้อ น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น