การเก็บรักษาน้ำมันมะพร้าวที่ถูกวิธี
กระแสการดูแลรักษาสุขภาพและความงามด้วยวิธีทางธรรมชาติกำลังมาแรง ปัจจุบัน ประชาชนจำนวนไม่น้อยให้ความสนใจเกี่ยวกับการนำน้ำมันจากพืชมาใช้ดูแลร่างกาย และน้ำมันชนิดหนึ่งที่กำลังได้รับความนิยมคือ น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ( Coconut Oil Extra Virgin )
น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ( Coconut Oil Extra Virgin ) เป็นการผลิตจากเนื้อมะพร้าวสดเป็นน้ำมันมะพร้าวโดยไม่ใช้ความร้อนและไม่ใช้สารเคมี เพื่อรักษาสารที่มีประโยชน์ในเนื้อน้ำมันมะพร้าว ป้องกันไม่ให้การจับตัวกันของโมเลกุลน้ำมันมะพร้าวเปลี่ยนแปรไปจนเป็นโทษกับร่างกาย มีสีใสเหมือนน้ำ มีวิตามินอี ไม่ผ่านขบวนการเติมออกซิเจน (oxidation) มีกรดลอริก อยู่ประมาณ 54.61% กรดนี้มีส่วนที่ทำให้น้ำมันมะพร้าวดีกว่าน้ำมันพืชชนิดอื่นๆ เพราะสามารถสร้างภูมิคุ้มกัน
องค์ประกอบหลักๆ ของน้ำมันมะพร้าวและสรีระวิทยามีดังนี้
เป็นไขมันอิ่มตัว กรดไขมันอิ่มตัวในน้ำมันมะพร้าวส่วนใหญ่ มีจำนวนอะตอมของคาร์บอน 8-14 ตัว ทำให้โมเลกุลมีความยาวของเส้นขนาดปานกลาง กรดไขมันสำคัญที่มีได้แก่ กรดคาปริก, กรดลอริคและกรดไมริสติค และอื่นๆ อีกทั้งยังประกอบด้วยกรดไขมันที่ไม่อิ่มตัวอีก 2 ประเภทแต่มีอยู่เพียง 9% เช่น โอเลอิค ลินโอเลอิคและพาล์มมิโทเลอิคป็นต้น มีกรดลอริคสูงมาก น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ( Coconut Oil Extra Virgin ) เป็นน้ำมันพืชชนิดเดียวในโลกที่มีกรดลอริคอยู่ในปริมาณที่สูงมาก 48 – 53 % กรดนี้เองที่ทำให้ น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ( Coconut Oil Extra Virgin ) มีคุณสมบัติพิเศษในการเสริมสุขภาพและความงามของมนุษย์ กรดคาปริคที่มีอยู่ 6-7 % ก็ช่วยเสริมประสิทธิภาพของกรดลอริค มีวิตามิน อี ที่มีประสิทธิภาพสูง น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ( Coconut Oil Extra Virgin ) นั้นไม่ได้ผ่านกระบานการRDB จะยังคงวิตามินอีเหลือไว้สูง ด้วยเหตุที่มีวิตามินอีสูงจึงทำให้ น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ( Coconut Oil Extra Virgin ) โดดเด่นกว่าน้ำมันชนิดอื่นๆ
วิธีสกัด น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ( Coconut Oil Extra Virgin )
การสกัดน้ำมันมะพร้าวแบบแห้ง
เริ่มจากการตากเนื้อมะพร้าวให้แห้ง ก่อนนำเนื้อมะพร้าวแห้งเข้าเครื่องอัดหรือรีด ควรนำไปอบเพื่อให้มะพร้าวคายน้ำมันได้ดีขึ้น วิธีนี้จะมีเศษเนื้อมะพร้าวเป็นตะกอนปนกับน้ำมันมะพร้าวซึ่งอาจจะทำให้ไส้กรองอุดตันได้ ดังนั้นก่อนนำไปใช้ต้องกรองให้สะอาด หรือนำมาเคี่ยวอีกรอบก็จะเป็นการดี วิธีนี้จะทำให้ได้น้ำมัน 1.8 ลิตรต่อเนื้อมะพร้าว 1 กิโลกรัม
การสกัดน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ด้วยวิธีการหมัก
เป็นวิธีดั้งเดิมที่ง่าย สะดวกและลงทุนต่ำมีวิธีการคือขูดมะพร้าวใส่กะละมัง เสร็จแล้วเติมน้ำอุ่นลงไป คั้นน้ำกะทิในกะละมัง ใช้ผ้าขาวบางหรือตะแกรงกรองเอากากมะพร้าวออกนำน้ำกะทิที่คั้นได้ ใส่ภาชนะสำหรับหมัก ปิดฝาทิ้งไว้ 2-3 วัน ถ้าภาชนะที่ใช้เป็นโหล แก้วจะดีมาก เพราะผู้ทำสามารถมองเห็นชั้นหรือระดับของน้ำมันอย่างชัดเจน ซึ่งจะสะดวกเวลาดูดน้ำมันออกจากภาชนะหลังจากตั้งน้ำกะทิทิ้งไว้ 2-3 วัน น้ำมันมะพร้าวจะลอยตัวอยู่ด้านบนของภาชนะ ให้ใช้สายยางดูดออกมา แล้วกรองด้วยผ้าขาวบาง เสร็จแล้วจึงบรรจุขวดที่มีฝาปิด เพราะจะทำให้เก็บน้ำมันมะพร้าวได้นานข้อควรระวังในระหว่างดูดน้ำมันออกจากภาชนะหมักผู้ทำควรพยายามอย่าให้น้ำติดมาด้วย มิฉะนั้นอาจต้องนำไปอุ่นอีกครั้งเพื่อไล่น้ำหรือความชื้นออก วิธีการเพียงเท่านี้ก็จะได้น้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ที่มีกลิ่นหอม สีใส คุณภาพดี
สำหรับวิธีสกัดน้ำมันมะพร้าวด้วยการบีบอัดด้วยเครื่องไฮโดรลิกทำให้ได้น้ำมันคุณภาพดี แต่ต้องลงทุนเครื่องที่มีราคาแพง มีวิธีการคือ นำเนื้อมะพร้าวอบแห้งที่หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ มาบีบอัดด้วยเครื่องบีบแบบไฮโดรลิกจนได้น้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์นำไปกรองตั้งทิ้งให้ตกตะกอนแล้วกรองอีกครั้งหนึ่ง บรรจุขวดสีชาหรือสีเขียวหรือสีน้ำเงินมีฝาปิด
การสกัดน้ำมันมะพร้าวด้วยการเคี่ยว
นำมะพร้าวสดมาคั้นเอากะทิ แล้วเคี่ยวกะทิในกระทะจนน้ำมันแยกตัวออก ส่วนที่เป็นกากจะจับตัวกันเป็นก้อนที่เหลือจะเป็นน้ำมัน น้ำมันมะพร้าวที่ได้จากการเคี่ยวจะมีไขมันน้อยและสะอาด นำไปใช้ได้เลย วิธีนี้ถ้าใช้กะทิ 1 ลิตรจะเคี่ยวน้ำมันมะพร้าวได้ประมาณ 0.25 ลิตร
วิธีเก็บรักษาน้ำมันมะพร้าว
สำหรับวิธีเก็บรักษาน้ำมันมะพร้าวน้ำมันมะพร้าวจะเป็นไขที่อุณหภูมิต่ำกว่า 25 องสาเซ็นเซียส (ไม่ได้เสีย) และจะกลับมาใสเหมือนเดิมที่อุณหภูมิห้องโดยที่คุณสมบัติทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม
ขอขอบคุณข้อมูลจาก coconutoilotop
อ่านบทความอื่นเพิ่มเติม
บทความที่น่าสนใจ