น้ำมันมะพร้าว ต้านหวัด
เมื่อหน้าฝนเวียนมา อากาศก็เปลี่ยนแปลงบ่อยซะเหลือเกิน เดี๋ยวร้อนจัด เดี๋ยวฝนตก ทำให้ร่างกายอ่อนแอจนต้องเจ็บไข้ได้ป่วย แต่ถ้ามี “น้ำมันมะพร้าว” (Coconut Oil) รับรองว่าหน้าฝนนี้ไม่ป่วยแน่นอน
รู้กันหรือไม่ว่า “น้ำมันมะพร้าว” (Coconut Oil) ได้ถูกนำมาใช้เป็นอาหาร ยา และเครื่องสำอาง มาเป็นเวลานานนับหลายพันปีมาแล้ว ซึ่งน้ำมันมะพร้าว คือ ไขมัน 100% ที่ประกอบไปด้วยกรดไขมันอิ่มตัว 80 – 90% ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกรดลอริก พบมากถึง 47% ส่วนที่เหลือคือ กรดไมริสติก และกรดปาล์มมิติก
จะเห็นได้ว่าน้ำมันมะพร้าวเป็นน้ำมันจากพืชชนิดเดียวในโลกที่มีกรดลอริกอยู่ในปริมาณที่สูงมากถึง 47% จึงทำให้น้ำมันมะพร้าวมีคุณสมบัติพิเศษ ดีเด่นกว่าน้ำมันพืชชนิดอื่น ๆ ในด้านการเสริมสุขภาพ ดังนี้
1. สร้างภูมิคุ้มกัน – กรดลอริกในน้ำมันมะพร้าวจะเปลี่ยนเป็นโมโนกลีเซอไรด์ ที่มีชื่อว่า โมโนลอริน ซึ่งเป็นสารตัวเดียวกับที่อยู่ในน้ำนมมารดา ที่ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้กับทารกในระยะ 6 เดือนแรก ที่ร่างกายยังไม่สร้างระบบภูมิคุ้มกันโรค
2. ฆ่าเชื้อโรค - โมโนลอรินเป็นสารปฏิชีวนะที่ทำลายเชื้อโรคทุกชนิด ที่ดีกว่ายาปฏิชีวนะที่ใช้อยู่ในปัจจุบันที่สามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา ยีสต์ โปรโตซัว และไวรัส ไวรัสบางชนิดที่ยาปฏิชีวนะทั่วไปทำลายไม่ได้เนื่องจากมีเกราะที่เป็นไขมันห่อหุ้ม แต่เกราะนี้ก็จะถูกละลายโดยน้ำมันมะพร้าว เปิดโอกาสให้โมโนลอรินเข้าไปฆ่าเชื้อโรค ซึ่งสารปฏิชีวนะในน้ำมันมะพร้าวไม่เป็นพิษต่อมนุษย์ และจะถูกสร้างขึ้นในร่างกายของมนุษย์เมื่อบริโภคอาหารที่มีกรดลอริก อีกทั้งไม่เป็นอันตรายต่อแบคทีเรียที่เป็นประโยชน์ในลำไส้อีกด้วย
จากคุณสมบัติพิเศษเหล่านี้ ส่งผลให้น้ำมันมะพร้าวสามารถช่วยบรรเทาอาการเจ็บป่วยต่าง ๆ ที่เกิดจากการติดเชื้อได้ เช่น เชื้อไวรัสไข้หวัด เชื้อไข้หวัดใหญ่ เริม คางทูม เจ็บคอ เพิ่มภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรงขึ้นได้ โดยกระตุ้นการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาวให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น เราจึงนำน้ำมันมะพร้าวมาป้องกันและบรรเทาอาการหวัดได้ ไม่ทำให้เกิดการดื้อยาของเชื้อโรค
น้ำมันมะพร้าวช่วยต้านหวัดได้อย่างไรบ้าง ?
1. รับประทาน : สามารถตวงกับช้อนแล้วกินได้เลย หรือจะนำไปปรุงเป็นเมนูคาวหวานก็ได้ หรือจะเติมน้ำมันมะพร้าวลงในอาหาร อาจจะเป็นซุป ต้มจืด โดยใช้น้ำมันมะพร้าวแค่เพียงเล็กน้อย รับประทานเป็นประจำในช่วงที่ป่วย เป็นหวัด หรือรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัว จะช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายได้
2. ดื่ม : นอกจากการเติมน้ำมันมะพร้าวลงในอาหารแล้ว สามารถเติมน้ำมันมะพร้าวลงในเครื่องดื่ม เช่น น้ำชา แล้วจิบอุ่น ๆ บรรเทาอาการเจ็บคอและอาการไอ
โดยการรับประทาน หรือ ดื่มน้ำมันมะพร้าวนั้น ต้องระวังเรื่องปริมาณการบริโภคด้วย ซึ่งวิธีที่เหมาะสมอาจยึดหลักจากน้ำหนักตัว ดังนี้
- น้ำหนักตัว 30 - 40 กิโลกรัมขึ้นไป สามารถบริโภคได้ไม่เกิน 0.5 ช้อนโต๊ะต่อวัน
- น้ำหนักตัว 40.1 - 60 กิโลกรัมขึ้นไป สามารถบริโภคได้ไม่เกิน 1 ช้อนโต๊ะต่อวัน
- น้ำหนักตัว 60.1 - 80 กิโลกรัมขึ้นไป สามารถบริโภคได้ไม่เกิน 1.5 - 2 ช้อนโต๊ะต่อวัน
- น้ำหนักตัว 80.1 กิโลกรัมขึ้นไป สามารถบริโภคได้ไม่เกิน 2.5 - 3 ช้อนโต๊ะต่อวัน
- เด็กอายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไป ไม่เกินวันละ 1 - 2 ช้อนชา
- ผู้สูงอายุรับประทานไม่เกินวันละ 1 - 2 ช้อนโต๊ะต่อมื้อ
3. ดม : สามารถผสมน้ำมันมะพร้าวเข้ากับน้ำมันหอมระเหย เช่น ยูคาลิปตัส เปปเปอร์มินต์ เพื่อสูดดมบรรเทาอาการคัดจมูก ได้
4. ทา : สามารถผสมน้ำมันมะพร้าวเข้ากับน้ำมันหอมระเหย เช่น ยูคาลิบตัส เปปเปอร์มินต์ ทาบริเวณหน้าอกและแผ่นหลัง เพื่อช่วยบรรเทาอาการหวัด คัดจมูก และช่วยให้นอนหลับสนิท
ด้วยความปรารถนาดีจาก น้ำมันมะพร้าวออร์แกนิคสกัดเย็น ตราแมนเนเจอร์ (Organic Coconut Oil Extra Virgin By ManNature)
ขอขอบคุณข้อมูลจาก mgronline
บทความที่น่าสนใจ