บอกลา กลิ่นเต่า ด้วย น้ำมันมะพร้าว .

บอกลา กลิ่นเต่า ด้วย น้ำมันมะพร้าว

Share : facebook share twitter share messenger share

บทความ น้ำมันมะพร้าว

บอกลา กลิ่นเต่า ด้วย น้ำมันมะพร้าว



ปัญหาเรื่องของ กลิ่นตัว หรือ กลิ่นเต่า ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ เพราะทำให้ใครหลายคนรู้สึกกังวล จนเสียความมั่นใจกันอยู่มาก แต่ต่อจากนี้ไปเลิกกังวลได้เลยค่ะ เพราะเรามีตัวช่วยชั้นดีอย่าง น้ำมันมะพร้าว ( Coconut Oil ) ที่จะมาช่วยกำจัดกลิ่นเหล่านี้ ให้หายไป

 

มาดูสาเหตุของ “กลิ่นตัว” กันหน่อยดีกว่า

     "กลิ่นตัว" เป็นกลิ่นชนิดหนึ่ง ที่มีลักษณะตั้งแต่เหม็นอ่อน ๆ ไปจนถึง เหม็นจนฉุน โดยส่วนมากแล้วจุดที่เกิดกลิ่นตัวมักจะเป็นบริเวณ ศีรษะ ท้ายทอย รักแร้ ขาหนีบ หรือ ส่วนของข้อพับต่าง ๆ

 

     การเกิดกลิ่นตัวนั้น เกิดขึ้นจาก เชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่ฝังตัวอยู่ตามบริเวณดังกล่าว ไปทำปฏิกิริยากับต่อมเหงื่อ ด้วยการย่อยสลายเหงื่อเอง จนทำให้เกิดเชื้อราและกรดไขมัน เป็นเหตุให้เกิดความอับชื้น และ เกิดกลิ่นตามมา โดยทั่วไปแล้วพบกลิ่นตัวในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง เพราะผู้ชายมีการผลิตต่อมเหงื่อเยอะกว่านั่นเอง ยิ่งประเทศไทยเป็นประเทศที่มีอากาศร้อน จึงทำให้มีเหงื่อออกมากกว่าปกติ แล้วเมื่อเหงื่อออกมาก ก็จะยิ่งมีแบคทีเรียสะสมในบริเวณนั้นมาก เลยทำให้เกิดกลิ่นบริเวณที่เหงื่อออกเยอะ 

 

ร่างกายของคนเราจะผลิตเหงื่อได้ 2 รูปแบบ คือ

1. Eccrine

     Eccrine เป็นการขับเหงื่อจากร่างกาย เพื่อลดอุณหภูมิที่สูงขึ้นอย่างฉับพลัน เช่น การออกกำลังกาย การอยู่ในที่เบียดเสียด หรือ อยู่ในที่ที่มีอากาศร้อน การขับเหงื่อประเภทนี้ จะเป็นการขับเหงื่อทั่วทั้งร่างกาย จุดไหนก็เหงื่อออกได้ไม่เว้นแม้กระทั่งเท้า แต่ถึงเหงื่อจะออกมากเท่าไร ก็ไม่มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ เว้นเสียแต่จะมีกลิ่นอับชื้นตามมาเท่านั้น

 

2. Aprocrine

     Aprocrine เป็นการผลิตเหงื่อจากต่อมโดยตรง ที่บริเวณข้อพับทั้งหลาย เช่น รักแร้ ข้อพับขา ข้อมือ ท้ายทอย อวัยวะเพศ เป็นต้น เหงื่อที่ผลิตจากส่วนนี้ จะมีส่วนผสมของไขมันและโปรตีน จึงทำให้เกิดปฏิกิริยากับเชื้อแบคทีเรียได้โดยง่าย และ เกิดเป็นกลิ่นตัว

 

วิธีป้องกันการเกิด กลิ่นตัว

1. อาบน้ำอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เพื่อลดแบคทีเรียที่เกาะอยู่ตามผิวหนัง และ เมื่ออาบน้ำเสร็จแล้ว ควรเช็ดตัวให้แห้งสนิท เพื่อไม่ให้เกิดการอับชื้น

2. ดูแลรักษารักแร้ให้สะอาด หลีกเลี่ยงการไว้ขนรักแร้ เพราะถ้าหากมีเหงื่อออกที่รักแร้ จะทำให้เกิดการอับชื้น ทำให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์

3. เลือกใส่เสื้อผ้าที่มีการระบายอากาศได้ดี

 

     น้ำมันมะพร้าว ( Coconut Oil ) กับ เรื่องของการดับ กลิ่นตัว ต้องบอกเลยว่า น้ำมันมะพร้าว ( coconut oil ) สามารถช่วยคุณได้ ในเรื่องของกลิ่นตัว เพราะด้วยฤทธิ์ของกรดลอริก ที่ฆ่าเชื้อโรคได้นั่นเอง ซึ่งกลิ่นตัวของคนเราจัดเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ซึ่งแต่ละคนมีกลิ่นแตกต่างกันค่ะ

 

     วิธีการรักษากลิ่นตัวด้วย น้ำมันมะพร้าว ( coconut oil ) ทำได้โดย หลังจากที่เราอาบน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้วให้เช็ดตัวให้แห้ง จากนั้นใช้ น้ำมันมะพร้าว ( coconut oil ) เพียงเล็กน้อย เหยาะใส่มือประมาณ 3 - 4 หยด ทาที่บริเวณรักแร้เป็นประจำ รวมไปถึงตามข้อพับต่าง ๆ ที่มีส่วนทำให้เกิดกลิ่นตัว หมั่นทำเป็นประจำทุกวัน เพียงเท่านี้กลิ่นอับชื้น กลิ่นตัวก็จะค่อย ๆ หายไป เหลือแต่เพียงกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของ น้ำมันมะพร้าว ( coconut oil X อีกทั้งวิตามินอีธรรมชาติ ที่มีอยู่ในน้ำมะพร้าว ยังบำรุงผิวใต้รักแร้ให้ชุ่มชื้น ไม่เป็นหนังไก่ และ ค่อย ๆ ขาวขึ้นด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ ไม่มีสารเคมีเจือปนอีกด้วย

 

     เรื่องของกลิ่นตัว เป็นเรื่องที่ไม่ควรจะมองข้ามเลยทีเดียว เพราะฉะนั้น ก็อยากให้ลองเอา น้ำมันมะพร้าว ( coconut oil ) ไปใช้ในการลดกลิ่นตัว แต่ถ้าสุดท้ายแล้วยังไม่ได้ผล ขอแนะนำให้เข้ารับการรักษาจากทางการแพทย์จะดีที่สุดค่ะ

 

ด้วยความปรารถนาดีจาก น้ำมันมะพร้าวออร์แกนิคสกัดเย็น ตราแมนเนเจอร์ (Organic Coconut Oil Extra Virgin By ManNature)


บทความที่น่าสนใจ

ผิวสวย กันแดดได้ ไม่ต้องกลัว ผิวเสีย ด้วย น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น

ดูแลร่างกายด้วย น้ำมันมะพร้าวกสัดเย็น

ประโยชน์ของ น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นเพื่อสุขภาพผิว และความงาม

น้ำมันมะพร้าว บำรุงผิวให้ชุ่มชื่น