รวมประโยชน์จากน้ำมันมะพร้าว
รวมประโยชน์จากน้ำมันมะพร้าว ได้แก่ การปรุงอาหาร , การดูแลผิว และ การดูแลเส้นผม มานานหลายศตวรรษ เนื่องจาก น้ำมันมะพร้าว เป็นน้ำมันสำหรับบริโภค ที่สกัดจากเมล็ด หรือ เนื้อของมะพร้าวแก่ ที่เก็บเกี่ยวจากต้นมะพร้าว เป็นน้ำมันอเนกประสงค์ ที่ถูกนำมาใช้งาน
น้ำมันมะพร้าว ประกอบด้วยไขมันอิ่มตัวเป็นหลัก โดยกว่า 90 % ของกรดไขมัน ประกอบด้วยไขมันอิ่มตัว ไขมันอิ่มตัวหลัก ที่พบในน้ำมันมะพร้าว เรียกว่า กรดลอริก (LauricAcid) ซึ่งมีส่วนประกอบ ประมาณ 40 % ของกรดไขมันทั้งหมด กรดลอริก ยังพบได้มากใน นมแม่ และ เชื่อว่ามีประโยชน์ ต่อสุขภาพ นอกจากไขมันอิ่มตัวแล้ว น้ำมันมะพร้าว ยังมี ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว และ ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน ในปริมาณเล็กน้อย ปราศจาก คอเลสเตอรอล และ ไขมันทรานส์ ซึ่งถือเป็น ไขมันที่ไม่ดีต่อสุขภาพ น้ำมันมะพร้าว มีประโยชน์หลายประการ เนื่องจาก องค์ประกอบ และ คุณสมบัติที่เป็นเอกลักษณ์ นี่คือประโยชน์บางประการที่เราขอหยิบยกตัวอย่าง ที่เกี่ยวข้องกับการใช้น้ำมันมะพร้าว
น้ำมันมะพร้าว สามารถใช้ทาเป็น มอยเจอร์ไรเซอร์ สำหรับผิวหนัง และ เส้นผมได้ มีคุณสมบัติในการ ให้ความชุ่มชื้น ที่สามารถช่วยปรับปรุง เนื้อสัมผัสของผิว ให้ความชุ่มชื้น แก่ผิวแห้ง และ ลดเลือนริ้วรอย เมื่อทาลงบนเส้นผม อาจช่วยบำรุง และ ปรับสภาพผม ช่วยให้ผมเงางาม และ ดูสุขภาพดี
น้ำมันมะพร้าว ประกอบด้วย ไขมันอิ่มตัวเป็นหลัก รวมทั้ง ไตรกลีเซอไรด์สายโซ่ ขนาดกลาง (MCTs) ซึ่งเป็น กรดไขมัน ที่มีการเผาผลาญ ได้รวดเร็วกว่า ในขณะที่ ไขมันอิ่มตัว ยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ในหมู่นักวิชาการ อย่างไรก็ตาม การวิจัยบางชนิด แนะนำว่า MCT ที่พบในน้ำมันมะพร้าว โดยเฉพาะกรดลอริก อาจมีผลกระทบที่เป็นกลาง หรือ ในเชิงบวก ต่อสุขภาพของหัวใจ โดยการเพิ่มระดับของ คอเลสเตอรอล HDL หรือ คอเลสเตอรอลชนิดดี หรือ High-Density Lipoprotein Cholesterol ที่เป็นประโยชน์ และ ปรับปรุงอัตราส่วนของ คอเลสเตอรอล HDL ต่อ HDL
MCTs ในน้ำมันมะพร้าว สามารถถูกเผาผลาญ ได้อย่างรวดเร็ว โดยตับ และ เปลี่ยนเป็นคีโตน ซึ่งทำหน้าที่เป็น แหล่งพลังงานทางเลือก สำหรับสมอง งานวิจัยบางชิ้น ชี้ให้เห็นว่า คีโตน อาจมีผลต่อการป้องกันระบบประสาท และ อาจเป็นประโยชน์ต่อบุคคล ที่มีความผิดปกติ ทางระบบประสาทบางอย่าง เช่น โรคอัลไซเมอร์
MCTs ในน้ำมันมะพร้าว ได้รับการศึกษาถึง ศักยภาพในการ ส่งเสริมการลดน้ำหนัก เพราะ น้ำมันมะพร้าว สามารถ เพิ่มความรู้สึกอิ่ม และ ความอิ่มในท้อง ซึ่งอาจลดปริมาณแคลอรี่ นอกจากนี้ MCTs ยังสามารถ เปลี่ยนเป็นพลังงานได้ง่าย และ มีโอกาสน้อย ที่จะถูกเก็บเป็นไขมันในร่างกาย เมื่อเทียบกับไขมันชนิดอื่น ๆ
น้ำมันมะพร้าว อาจมีคุณสมบัติ ต้านจุลชีพ และ ต้านแบคทีเรีย เนื่องจากมี กรดลอริก และ กรดไขมันอื่น ๆ คุณสมบัติเหล่านี้ สามารถช่วยต่อต้าน แบคทีเรียที่เป็นอันตราย , ปรสิต และ เชื้อรา ในระบบย่อยอาหาร ซึ่งอาจส่งเสริม ไมโครไบโอม (Microbiome) หรือ ชุมชนจุลชีพ ในลำไส้ที่ดีต่อสุขภาพ
กรดลอริก ในน้ำมันมะพร้าว ได้รับการพิสูจน์แล้ว ว่ามีคุณสมบัติต้านจุลชีพเสีย และ ต้านไวรัส ซึ่งมีส่วนช่วย เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน และ ป้องกันการติดเชื้อ
เมื่อทาเฉพาะที่ผิวหนัง น้ำมันมะพร้าว สามารถเป็น เกราะป้องกันผิว ปกป้องผิว จากการทำร้ายจากสิ่งแวดล้อม หรือ มลภาวะ และ ช่วยป้องกัน การสูญเสียความชุ่มชื้น นอกจากนี้ ยังอาจมีฤทธิ์ต้าน การอักเสบที่สามารถช่วยในการ รักษาบาดแผล และ บรรเทาอาการของผิวหนัง เช่น ผิวหนังอักเสบ หรือ โรคเรื้อนกวาง
สรุปแล้ว แม้ว่า น้ำมันมะพร้าว จะมีประโยชน์มากมายจริง ๆ ตามที่ได้กล่าวไปในข้างต้น แต่ก็ควรใช้ในปริมาณที่พอเหมาะ เพราะ มีแคลอรี่หนาแน่น และ มีไขมันอิ่มตัวสูง ดังนั้น เราจึงแนะนำให้ บริโภคเป็นส่วนหนึ่ง ของอาหารที่สมดุล เช่นเดียวกับ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร หรือ ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว ผลลัพธ์ของแต่ละคน อาจแตกต่างกันไป และ หากผู้ที่มีอาการป่วยด้วยโรคผิวหนังอย่างรุนแรง เราขอแนะนำให้ปรึกษากับ บุคลากรทางการแพทย์ หรือ แพทย์ผิวหนัง เพื่อขอคำแนะนำ เฉพาะบุคคลตามความต้องการ และ สถานการณ์เฉพาะ ๆ ของคุณ
อ่านบทความเพิ่มเติม
บทความที่น่าสนใจ