น้ำมันมะพร้าวปรุงอาหาร ดีกว่าน้ำมันชนิดอื่นอย่างไร
การเลือกใช้ น้ำมันปรุงอาหาร เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เหล่าพ่อบ้านแม่บ้าน ควรเลือกใช้น้ำมันที่ดี เพื่อไม่เป็นผลเสียต่อสุขภาพ อย่างการใช้ น้ำมันมะพร้าวปรุงอาหาร ที่รับรองได้ว่าดีต่อสุขภาพของผู้รับประทานอย่างแน่นอน
น้ำมันปรุงอาหาร ( Cooking Oil )
น้ำมันปรุงอาหาร ( Cooking Oil ) เป็นวัตถุดิบที่ใช้ในการประกอบอาหารประเภทผัด หรือทอด ซึ่งน้ำมันปรุงอาหารที่มีการใช้ในปัจจุบัน สามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภทหลัก ๆ คือ
1. น้ำมันจากสัตว์ เช่น น้ำมันหมู เป็นน้ำมันที่มีกรดไขมันอิ่มตัว ( Saturated fatty acid ) เป็นองค์ประกอบ สามารถเป็นไขได้ง่ายเมื่ออากาศเย็นขึ้น (ต่ำกว่า 25 องศาเซลเซียส) และมีกลิ่นหืนได้ง่ายเมื่ออยู่ ณ อุณหภูมิปกติ
2. น้ำมันจากพืช เป็นน้ำมันที่มาจากพืช เช่น น้ำมันถั่วเหลือง , น้ำมันมะกอก , น้ำมันรำข้าว , น้ำมันเมล็ดดอกทานตะวัน ส่วนใหญ่ ประกอบด้วย กรดไขมันไม่อิ่มตัว ( Unsaturated fatty acid ) ซึ่งเป็นไขมันที่ละลายในอุณหภูมิห้อง จัดเป็นไขมันที่มีประโยชน์หรือไขมันที่ดีต่อร่างกายเนื่องจากช่วยลดความเสี่ยงของระดับคอเลสเตอรอลในเลือดได้ จึงเป็นไขมันประเภทที่ควรทานในสัดส่วนที่มากที่สุด
สำหรับ น้ำมันมะพร้าว และน้ำมันปาล์ม เป็นน้ำมันที่ได้มาจากพืช แต่มีกรดไขมันอิ่มตัว เหมือนกับน้ำมันจากสัตว์ ซึ่งข้อดีของน้ำมันประเภทนี้ คือ มีความคงตัว แม้ได้รับความร้อนสูง ไม่กลายเป็นไขมันทราน ( Trans Fat ) ที่เป็นโทษต่อร่างกายได้ ในขณะที่น้ำมันที่มีกรดไขมันไม่อิ่มตัว มักกลายเป็นไขมันทรานได้ เมื่อโดนความร้อนสูง
เลือกใช้ น้ำมันมะพร้าว ( Coconut Oil ) ปรุงอาหาร
ในการประกอบ อาหารด้วยการ ผัด หรือทอด จะทำให้ น้ำมันที่ใช้ในการปรุงอาหาร ติดมากับอาหารที่เราใช้ ผัด หรือทอดด้วย การเลือก น้ำมันปรุงอาหาร ( Cooking Oil ) จึงมีความสำคัญมาก เพราะ จะทำให้เราได้รับไขมันเหล่านั้นเข้าสู่ร่างกายไปด้วย
การเลือกใช้ " น้ำมันมะพร้าวปรุงอาหาร " ( Coconut Cooking Oil ) ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของน้ำมันที่ใช้ในปรุงอาหาร ที่จะช่วยลดน้ำหนัก ลดความอ้วนให้กับผู้รับประทานได้ เนื่องจาก กรดไขมันภายใน น้ำมันมะพร้าว เป็นกรดไขมันอิ่มตัวขนาดกลาง ( Medium Chain Triglycerides : MCT ) ประกอบด้วย กรดลอริก , กรดคาปริก และกรดคาปริลิก ซึ่งกรดไขมันสายปานกลางเหล่านี้ เมื่อเข้าสู่ร่างกาย จะย่อยได้ง่ายกว่าน้ำมันชนิดอื่น ๆ ที่เป็นกรดไขมันสายยาวที่จำเป็นต้องใช้เอนไซม์จากตับอ่อนเป็นตัวช่วยย่อย
เมื่อกรดไขมันเหล่านี้ ถูกย่อยได้ง่ายและเร็ว นั่นหมายถึง ไขมันจะถูกเปลี่ยนให้เป็นพลังงานและใช้ประโยชน์ต่อร่างกายได้อย่างรวดเร็ว จึงไม่มีไขมันสะสมในร่างกาย และช่วยลดมวลไขมันในร่างกายได้มากกว่า ผู้ที่เปลี่ยนมาใช้น้ำมันมะพร้าว ( Coconut Oil ) ในการปรุงอาหารแทนน้ำมันชนิดอื่นที่ใช้เป็นประจำ จะช่วยลดน้ำหนัก ลดความอ้วนให้กับผู้ที่ใช้น้ำมันมะพร้าว ( Coconut Oil ) ในการปรุงอาหารแทนได้
นอกจากนี้ กรดไขมันอิ่มตัวขนาดกลางที่อยู่ใน น้ำมันมะพร้าว ( Coconut Oil ) ยังสามารถกระตุ้นให้ร่างกายสร้าง คอเลสเตอรอลชนิดดี ( HDL ) ช่วยป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิด โรคหัวใจ โรคหลอดเลือด โรคอ้วน ความดันโลหิตสูง และไขมันอุดตันในเส้นเลือดต่ำลง ได้อีกด้วย
ข้อแนะนำการใช้ น้ำมันมะพร้าวปรุงอาหาร
ผลิตภัณฑ์น้ำมันมะพร้าว สามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ คือ น้ำมันมะพร้าวสำหรับปรุงอาหาร และน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ผู้ที่ต้องการใช้ในการปรุงอาหาร ควรเลือกใช้ น้ำมันมะพร้าวสำหรับปรุงอาหาร ที่สามารถใช้ประกอบอาหารได้ โดยการผ่านความร้อน
ในการเก็บรักษา น้ำมันมะพร้าวปรุงอาหาร สามารถเก็บทิ้งไว้ได้ ณ อุณหภูมิห้อง หากมีการเก็บรักษา ณ อุณหภูมิต่ำกว่า 25 °C จะทำให้น้ำมัน เป็นไขสีขาวขุ่นได้ และ น้ำมันมะพร้าวปรุงอาหาร ควรปิดภาชนะที่ใส่ให้สนิท เก็บไว้ในที่แห้ง และห่างจากแสงแดด
สำหรับผู้ที่สนใจ น้ำมันมะพร้าวปรุงอาหาร เราขอแนะนำ น้ำมันมะพร้าวออร์แกนิค สำหรับปรุงอาหาร ตราแมนเนเจอร์ จากธรรมชาติ 100% (Organic Coconut Cooking Oil By ManNature) มีให้เลือก 2 ขนาด คือ 400 ml. และ 1,000 ml. สามารถใช้ได้ทั้งผัด และทอด ให้ความร้อนสูง จึงสามารถใช้ทอดในอุณหภูมิสูงมากๆ ได้ โดยไม่เกิดการสลายตัว จากความร้อนกลายเป็นควันและกลิ่นฉุน ทอดอาหารได้กรอบอร่อย ไม่มีกลิ่นหืน ช่วยทำให้อาหารมีกลิ่นหอมมากขึ้น ให้คุณอิ่มอร่อยได้หลากหลายเมนูดั่งใจ
สุขภาพที่ดี เริ่มได้ที่ตัวคุณ ด้วยความปราถนาดีจาก น้ำมันมะพร้าว ออร์แกนิค สกัดเย็น ตราแมนเนเจอร์ ( Organic Coconut Oil Extra Virgin By ManNature )
อ่านบทความเพิ่มเติม
บทความที่น่าสนใจ