Q&A คำถามพร้อมตอบยอดฮิตกับน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นและแบบปรุงอาหาร
หลายท่านเคยมีคำถามน่าสงสัยกันไหมเกี่ยวกับ น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น และน้ำมันมะพร้าวปรุงอาหาร ว่ามันทั้งสองแตกต่างกันอย่างไร และกระบวกการทำงานและการรับประทาน หรือหลากหลายสารพัดคำถาม ที่หาคำตอบที่แท้จริงไม่ได้ วันนี้จึงนำคำตอบดี ๆ มาฝากค่ะ
น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น กับ น้ำมันมะพร้าวแบบปรุงอาหาร ถึงแตกต่างกัน แล้วใช้ทดแทนกันได้หรือไม่?
คำตอบ น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ไม่มีสี คือน้ำมันมะพร้าวที่ได้มาจากเนื้อมะพร้าวแล้วนำมาสกัดน้ำมันโดยไม่ผ่านความร้อน จึงได้กรดไขมันที่มีคุณภาพทั้งแร่ธาตุ สารอาหาร ความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระ เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ และสามารถนำมาผ่านความร้อนได้ด้วย เพียงแต่สำหรับคนที่ไม่คุ้นชินกับกลิ่นของน้ำมันมะพร้าวในทุกเมนูอาจไม่ชอบนำน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นไปประกอบอาหาร
ดังนั้นจึงมีน้ำมันมะพร้าวแบบปรุงอาหารคือนำเนื้อมะพร้าวที่เหลือจากน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นนำมาอบไล่ควันและไล่กลิ่น จากนั้นจึงผ่านกระบวนการสกัดน้ำมันอีกครั้งหนึ่ง น้ำมันชนิดนี้จึงมีสีเหลืองทองสามารถทำมาประกอบอาหาร เช่น ผัด ทอด ได้โดยไม่มีกลิ่นเหมือนน้ำมันมะพร้าวพรหมจรรย์ และไม่ก่อให้เกิดผลร้ายใด ๆ ต่อสุขภาพเมื่อเทียบกับน้ำมันปรุงอาหารที่ไม่อิ่มตัวชนิดอื่น ๆ แต่ไม่สามารถมีคุณภาพที่ดีต่อสุขภาพทัดเทียมกับน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นได้
น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นชนิดดื่มนั้นเอามาทาผิวหรือหมักผมได้หรือไม่ และแบบปรุงอาหารเอามาทาผิวได้หรือไม่?
คำตอบ สำหรับน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ชนิดดื่มนั้นสามารถเอามาทาผิวหน้า ผิวตัว หมักผมได้เลย เพราะความโดดเด่นของกรดไขมันสายปานกลางในน้ำมันมะพร้าวที่ดูดซึมเร็วนั้น เมื่อทาผิวแล้วก็จะสามารถนำพาวิตามินอีและสารต้านอนุมูลอิสระเข้าไปในผิวได้เร็วกว่าน้ำมันชนิดอื่น จึงทำการฟื้นฟูผิวได้เร็ว และลดอาการคันให้น้อยลง และสามารถทำมาใช้กับผู้ที่เป็นโรคสะเก็ดเงินได้ด้วย(ทั้งดื่มและทาผิว) และด้วยน้ำมันมะพร้าวมีโมเลกุลขนาดเล็กจึงสามารถนำมาชุบสำลีไว้ทำความสะอาดเช็ดเครื่องสำอางออกจากใบหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยให้ล้างหน้าด้วยน้ำเย็นหลังจากนั้น นอกจากนั้นจากงานวิจัยก็ยังพบว่าน้ำมันมะพร้าวสามารถนำมาหมักผมสัปดาห์ละ 1 ครั้งทำให้เส้นผมมีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน
ทำไมน้ำมันมะพร้าวกับกะทิต่างกันตรงไหน กินกะทิได้หรือไม่อย่างไร?
คำตอบ แท้ที่จริงแล้วน้ำมันมะพร้าวก็ผลิตและสกัดมาจากกะทิ โดยกะทิ 4 ส่วนจะได้น้ำมันมะพร้าว 1 ส่วน เพียงแต่เราไม่ได้บริโภคน้ำมันอย่างเดียวแต่บริโภคส่วนอื่นที่ได้จากกะทิไปด้วย ทำให้ต้องดื่มในปริมาณที่ต้องมากกว่า อย่างไรก็ตามการดื่มกะทิสดมักไม่ค่อยนิยมกัน และมักจะทานกับอาหารอย่างอื่นเช่นอาหารคาวหรือหวาน ผู้บริโภคจึงต้องระมัดระวังไม่ให้รับประทานหวานมากเกินไปด้วย
ทำไมดื่มน้ำมันมะพร้าวแล้วรู้สึกท้องอืด และจะทำอย่างไรดี?
คำตอบ ความจริงแล้วคนที่ดื่มน้ำมันมะพร้าวจะมีความรู้สึก "อิ่ม" มากกว่า"ท้องอืด" เพียงแต่อาจไม่คุ้นชินกับความรู้สึกได้รับพลังงานที่เพียงพอจากน้ำมันมะพร้าว เพราะน้ำมันมะพร้าวจะเป็นกรดไขมันสายปานกลาง ดูดซึมเป็นพลังงานแก่ตับได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ตกค้าง ต่างจากน้ำมันชนิดอื่นที่ส่วนใหญ่เป็นกรดไขมันสายยาว ดังนั้นคนที่ดื่มน้ำมันมะพร้าวแล้วรู้สึกท้องอืดนั้น อาจเป็นเพราะดื่มน้ำมันมะพร้าวแล้วไม่ทิ้งช่วงให้นานพอแล้วไปบริโภคอาหารในปริมาณตามที่เคยคุ้นชิน ผลก็คือเราได้รับปริมาณอาหารที่ให้พลังงานมากเกินความต้องการที่แท้จริงจึงอาจทำให้รู้สึกท้องอืดขึ้นมาได้
ดังนั้นการดื่มน้ำมันมะพร้าวควรมีเวลาให้เพียงพอระหว่างอย่างน้อย 30 นาที หรือจะให้ดีคือ 1 ชั่วโมง เพื่อให้ตัวเราได้พิจารณาว่าเราควรบริโภคอาหารเพิ่มเติมอีกเท่าไหร่ ดังนั้นหากปฏิบัติตามวิธีการดังกล่าวยังมีความรู้สึกท้องอืดอยู่ ก็ให้ลดปริมาณน้ำมันมะพร้าวให้น้อยลง
น้ำมันมะพร้าวออร์แกนิคสกัดเย็น ตราแมนเนเจอร์ ขนาด 1000 ml (Organic Coconut Oil Extra Virgin By ManNature) จากธรรมชาติ 100% เป็นกรดไขมันอิ่มตัวขนาดกลาง มีกรดลอริก กรดคาปริก และกรดคาปริลิก สามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานได้อย่างรวดเร็ว ทําให้ไม่มีไขมันสะสมในร่างกาย และ น้ำมันมะพร้าวออร์แกนิคสำหรับปรุงอาหาร ตราแมนเนเจอร์ จากธรรมชาติ 100% (Organic Coconut Cooking Oil By ManNature)สำหรับปรุงอาหาร สามารถใช้ประกอบอาหารได้ (โดยผ่านความร้อนเท่านั้น)
ด้วยความปรารถนาดีจาก น้ำมันมะพร้าวออร์แกนิคสกัดเย็น ตราแมนเนเจอร์ (Organic Coconut Oil Extra Virgin By ManNature)
ขอขอบคุณข้อมูลจาก mgronline
อ่านบทความเพิ่มเติม
บำรุงเรือนร่าง ด้วย น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น
บทความที่น่าสนใจ